เทคนิคพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ : Chat short

เทคนิคพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ : Chat short
   คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ในยุคปัจจุบันใครๆ ก็ต้องมีอีเมล เฟสบุ๊ค หรือไลน์ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร และ องค์ประกอบหนึ่งในการแชท (Chat)  หรือคุยนั้น คือ ภาพแอนิเมชั่น หรือภาพอีโมตคอน เพื่อแสดงความรู้สึกแทนการเขียนข้อความ แต่บางครั้งภาพที่มีอาจยังไม่เพียงพอต่อการสื่อความหมายประโยคหรือคำพูดที่ยาว จึงถูกย่อให้เหลือสั้นลง เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการพิมพ์ การพิมพ์ข้อความตัวย่อจึงเกิดขึ้น และใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยส่วนมากมักจะใช้ คำย่อที่เกิดจากการดึงอักษรตัวแรกของคำแต่ละคำมาเรียงต่อกัน (Acronym) หรือใช้เป็นตัวย่อ (Abbreviation) 
   เราลองมาดูคำย่อที่มักพบบ่อยในการแชทตามสถานการณ์ต่างๆ  เริ่มจากการทักทาย

กฎหมายใกล้ตัว เรื่อง โดนตัดกระแสไฟฟ้า

กฎหมายใกล้ตัว เรื่อง โดนตัดกระแสไฟฟ้า
   ประมาณเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ผู้เขียนมีโอกาสไปเที่ยวหาเพื่อนที่ต่างจังหวัด และนึกอยากไปเที่ยวชมบรรยากาศผามออีแดง ประสาทเขาพระวิหาร จึงให้เพื่อนคนนั้นชวนพ่อแม่และญาติๆ ไปเที่ยมชมบรรยากาศทะเลหมอกที่ผามออีแดง โดยเพื่อนคนนี้มีบ้านพักหลังเล็กๆ อยู่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งนานๆ จะได้แวะไปพักอาศัย
  กว่าร้อยกิโล จากบ้านเพื่อนคนดังกล่าว จนมาถึงเขาพระวิหาร ก็ได้มาชมความงามของผามออีแดงสมใจ แต่ในส่วนของเขาพระวิหารนั้น ไม่สามารถขึ้นได้ เนื่องจากเป็นอธิปไตยของทางกัมพูชา หลังจากคิดว่าชมจนสมใจอยากแล้ว ทั้งหมดจึงพากันลงจากเขา แล้วมุ่งหน้าไปบ้านพักทันที การเดินทางครั้งนี้ ใช้เวลาประมาณ ๑๕ นาที จากเขาพระวิหาร ก็มาถึงบ้านพักของเพื่อน พ่อของเพื่อนรีบคว้ากุญแจบ้าน แล้วกระโจนลงจากรถ พร้อมกับบ่นพึมพำๆ ว่า "มวยๆๆๆ"  หลังจากเปิดประตูบ้านด้วยความรวดเร็ว หลังจากผู้เขียนจอดรถ เอาข้าวของทั้งหมดลงมาเรียบร้อย ก็เดินเข้าบ้าน เห็นพ่อเพื่อนพยายามกดรีโมท และบ่นพึมพำ อีกครั้งว่า โทรทัศน์พัง มาซ่อมให้หน่อย ผู้เขียนจึงได้ลองไปเปิดไฟ เปิดพัดลม ปรากฏว่า ทุกอย่างนิ่งสนิท จึงได้ไปตรวจสอบที่ฟิวส์ สะพานไฟ  ซึ่งจากการตรวจสอบแล้ว ทุกอย่างล้วนปกติ จึงเดินไปดูที่มิเตอร์ ปรากฏว่า มิเตอร์ไฟโดนตัด ท่านผู้อ่านลองนึกภาพตามนะครับ คนแก่วัย ๗๐ กว่าๆ อยากดูมวย แต่ดูไม่ได้ แกกระวนกระวายตั้งแต่บนเขาพระวิหารแล้ว รถมาถึงยังจอดไม่สนิท แกก็คว้ากุญแจบ้านกระโดดลงจากรถ สุดท้ายแล้วต้องผิดหวัง เพราะมิเตอร์ไฟโดนตัด

เกร็ดความรู้ชาวพุทธ เรื่อง คนมีบาป

เกร็ดความรู้ชาวพุทธ เรื่อง คนมีบาป
   คำว่า "บาป" หมายถึง ความชั่ว ความไม่ดี ซึ่งเมื่อทำแล้วเป็นเหตุให้ผู้ทำได้รับความมัวหมอง เดือดร้อนจนเป็นเหตุให้ถึงทุคติภูมิ บาปจะหนักหรือเบา ก็ขึ้นอยู่กับเจตนาของการกระทำ สิ่งที่ถูกกระทำ และวิธีการกระทำบาปนั้นๆ เป็นเกณฑ์ ในทางพระพุทธศาสนาสอนว่า บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น คนทำความดีย่อมได้รับผลดี คนทำความชั่วย่อมได้รับผลชั่ว โดยใจความก็คือ เมื่อสร้างเหตุไว้อย่างไร ก็ต้องได้รับผลตามสมควรแก่เหตุนั้น เหตุชั่ว ซึ่งเมื่อทำแล้วส่งผลให้ผู้ทำได้รับความมัวหมองเดือดร้อนด้วยประการต่างๆ นั้น มี ๒ ประการ คือ

กฎหมายใกลัตัว เรื่อง กฎหมายคุ้มครองสัตว์


กฎหมายใกลัตัว เรื่อง กฎหมายคุ้มครองสัตว์
   เชื่อว่าหลายท่านน่ายังพอจำได้เกี่ยวกับข่าวที่มีคนปามีดใส่สุนัข ทำให้สุนัขได้รับบาดเจ็บเป็นแผลที่ใบหน้า ต้องเย็บกว่าร้อยเข็ม และต่อมาศาลได้มีคำพิพากษา ให้ลงโทษจำคุก ๑ ปี ปรับ ๒,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา
   จากคดีข้างต้น แม้เจ้าของสุนัขไม่ติดใจดำเนินคดีก็ตาม แต่เนื่องจากการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่เข้าลักษณะของการทารุณกรรมสัตว์ตามความหมายของ พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.๒๕๕๗ อันเป็นความผิดต่อรัฐ เจ้าพนักงานตำรวจจึงต้องดำเนินคดีต่อไป แม้เจ้าของจะไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายก็ตาม

เทคนิคพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ : ฟังให้บ่อย...ได้ประโยชน์มากกว่าที่คิด

เทคนิคพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ : ฟังให้บ่อย...ได้ประโยชน์มากกว่าที่คิด
   ในการเรียนภาษาอังกฤษ ทักษะการฟัง เป็นทักษะที่นักเรียนส่วนใหญ่มีปัญหาในการฝึกมากที่สุด สาเหตุประการแรก ประสาทหูของเราไม่คุ้นเคยกับระบบเสียงของภาษาอังกฤษ ซึ่งมีหลายๆ เสียงที่ไม่มี หรือไม่เหมือนกับเสียงในภาษาไทย เช่น เสียง/th/ และ /v/ สาเหตุประการที่สอง ผู้ฟังไม่มีฐานคำศัพท์เพียงพอที่จะเข้าใจเนื้อหาที่สื่อทางเสียงได้ ฉะนั้น วันนี้เราจะขอแนะนำวิธีการฝึกทักษะการฟัง รวมทั้งสื่อที่สามารถใช้ในการฝึกฟังด้วยตนเองโดยสังเขป ดังนี้
   อุปกรณ์สำหรับการฝึกทักษะในการฟัง  ขอแนะนำให้ใช้หูฟังประกอบในการฟัง เนื่องจากหากใช้วิธีการเปิดลำโพง ผู้ฟังจะไม่ได้ยินเสียงต่างๆ อย่างชัดเจน ครบถ้วน เช่น เสียงควบกล้ำ /st/, /sp/ และเสียงลงท้าย /s/, /ed/ ส่วนสื่อที่เลือกฟังก็ควรมีเนื้อหา เพื่อให้ผู้ฟังเห็นคำศัพท์ และรูปประโยคประกอบการฟังด้วย
   สื่อที่แนะนำให้ใช้ในการฝึกฟัง 

แบบไหนจึงเรียกว่า "บันดาลโทสะ" (กฎหมายใกล้ตัว)

แบบไหนจึงเรียกว่า "บันดาลโทสะ" (กฎหมายใกล้ตัว)
   เมื่อมีเรื่องอาชญากรรมที่มีการประทุษร้ายต่อร่างกาย น้อยนักที่ผู้ต้องหาจะยืดอกรับอย่างสง่าผ่าเผย แต่ผู้ต้องหา มักจะกล่าวอ้างไปต่างๆ นาๆ เพื่อให้ตนไม่ผิด ไม่ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง และข้ออ้างที่เป็นที่นิยมของผู้ต้องหามักจะอ้างว่า กระทำการไปโดยการ "บันดาลโทสะ"

   คำว่า "บันดาลโทสะ" ตามหลักภาษาไทย คำดังกล่าวเป็นคำสนธิ เป็นการรวมระหว่างคำว่า "บันดาล" ซึ่งหมายความว่า ให้เกิดมีขึ้น เป็นขึ้น ด้วยแรงอำนาจของสิ่งหนึ่งสิ่งใด และ "โทสะ" หมายความว่า ความโกรธ เมื่อมารวมกันแล้ว "บันดาลโทสะ" จึงหมายความว่า "ให้เกิดมีขึ้น เป็นขึ้น ด้วยแรงอำนาจแห่งความโกรธ" หรือ "ทำด้วยความโกรธ"
   หลักกฎหมายไทย ได้ยอมรับหลักธรรมชาติที่ว่า มนุษย์ทุกคนเมื่อถูกข่มเหง ยอ่มมีความโกรธแค้นเป็นเรื่องธรรมดา โดยบัญญัติให้การรับรองไว้ในประมวลกฎหมายอาญาว่า 

กฎหมายใกล้ตัว เรื่อง ค้ำประกัน

กฎหมายใกล้ตัว เรื่อง ค้ำประกัน
   "ค้ำให้หน่อยเพื่อน" เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำนี้ เมื่อเข้าเป็นสมาชิกสหกรณ์อะไรซักที่หนึ่ง หลายคนก็สมัครใจ แต่ก็มีไม่น้อยเช่นกันที่ไม่สมัครใจจะค้ำประกัน แต่จำเป็นต้องค้ำประกันเงินกู้ให้ด้วยความเกรงใจ และเมื่อค้ำประกันให้แล้ว ต้องมาคอยลุ้นว่า เพื่อนจะผิดนัดชำระหนี้หรือไม่ จะหนีหนี้หรือไม่ หรือว่า จะชิงตายก่อนชำระหนี้หมดหรือไม่ เพราะกลัวต้องตกเป็นผู้ที่ต้องรับภาระหนี้จำนวนนั้นแทน
   ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องค้ำประกันนั้น มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะ ๑ ค้ำประกัน ตั้งแต่มาตรา ๖๘๐-๗๐๑ โดยหลักของกฎหมายแล้ว ผู้ค้ำประกัน ยินยอมชำระหนี้ เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น แต่ในรายละเอียดของกฎหมายยังให้สิทธิผู้คำประกันที่จะเกี่ยงว่า ให้เจ้าหนี้ไปติดตามทวงถามเอากับลูกหนี้ชั้นต้นก่อน หากติดตามทวงถามไม่ได้ จึงมาติดตามทวงถามกับผู้ค้ำประกัน หรือมีสิทธิพิสูจน์ว่า ลูกหนี้มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ และการบังคับไม่ใช่เรื่องยาก และให้เจ้าหน้าที่ไปบังคับเอากับลูกหนี้ก่อน ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งมาตรา  ๖๘๗ ๖๘๘ ๖๘๙ และกรณีที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้ผ่อนชำระหนี้ที่มีกำหนดแน่นอน โดยที่ผู้ค้ำประกันไม่ได้ให้ยินยอมด้วย ผู้ค้ำประกันย่อมหลุดจากความรับผิดชอบตามมาตรา ๗๐๐

Phrasal Verbs : Two Word Verbs (เทคนิคพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ)

Phrasal Verbs : Two Word Verbs (เทคนิคพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ) "เฮ้ย ฝรั่งที่โน่นเขาใช้ศัพท์ไม่เหมือนกับที่เราเรียนในห้องเรียนเลยว่ะ" เพื่อนคนหนึ่งซึ่งสอบได้ทุนไปศึกษาที่ต่างประเทศกลับมาเล่าให้ฟัง เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ชาวอเมริกันใช้สำนวนและแสลงในภาษาพูด อีกทั้งยังใช้ Phrasal Verbs บ่อยๆ ในการสนทนาในวงเพื่อนฝูง ทั้งๆ ที่ก็มีศัพท์คำอื่นๆ ที่มีความหมายเหมือนกัน แล้ว Phrasal Verbs คืออะไร
   Phrasal Verbs หรือ Two Word Verbs คือ คำกริยาที่ประกบคู่กับคำบุพบท (Preposition) แล้วมีความหมายใหม่ ซึ่งอาจแตกต่างจากความหมายเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยมักใช้ในภาษาพูด ไม่นิยมใช้ในโอกาสที่เป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่มักใช้ Phrasal Verbs ในชีวิตประจำวัน ผู้เรียนภาษาอังกฤษ จึงควรศึกษาความหมายของ Phrasal Verbs เช่นกัน เพราะนอกจากจะใช้ในการติดต่อสื่อสารแล้ว ยังถือเป็นคำศัพท์ประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญ และพบในข้อสอบวัดระดับภาษาอังกฤษบ่อยๆ ด้วย ตอนนี้ลองอ่านตัวอย่างการใช้ Phrasal Verbs จากเรื่องราวของทอม แล้วศึกษาคำอธิบายต่อไปนี้นะครับ

กฎหมายใกล้ตัว เรื่อง ดอกเบี้ย

กฎหมายใกล้ตัว เรื่อง ดอกเบี้ย
   "ดอกเบี้ย" คำๆ นี้ เชื่อหรือไม่คนที่ได้ยินอาจรู้สึกไม่เหมือนกัน หากผู้ได้ยินเป็นเจ้าหนี้ หรือผู้มีเงินฝากแล้ว ดอกเบี้ยย่อมเป็นสิ่งที่หอมหวลยวลใจเป็นยิ่งนัก แต่หากเปลี่ยนเป็นลูกหนี้แล้วล่ะก็ นอกจากจะไม่มีความสุขกับคำๆ นี้แล้ว ยังเป็นสิ่งที่มาสร้างความเดือดร้อนให้บรรดาลูกหนี้ทั้งหลายอีกด้วย โดยคำว่า "ดอกเบี้ย" นั้น ย่อมเข้าใจตรงกันว่า ดอกเบี้ย คือ เงินที่จะได้เพิ่มในลักษณะของค่าตอบแทนที่ผู้ปล่อยกู้ได้จากผู้ขอกู้ และในทางกลับกัน ผู้ขอกู้ก็จำเป็นจะต้องจ่ายเงินในส่วนนี้กับผู้ให้กู้นอกเหนือจากในส่วนของเงินต้นที่กู้มาด้วย โดยการคิดดอกเบี้ยนั้น จะมีการคิดในรูปแบบร้อยละเป็นหลัก เช่น ร้อยละ ๓ ร้อยละ ๕ ร้อยละ ๒๐ ฯลฯ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่าย ยินยอมร่วมกันก่อนจะทำสัญญา หรือไม่มีการคิดดอกเบี้ยต่อกันเลยก็เป็นได้
   เท่าที่จำได้ ผู้เขียนเคยให้คำแนะนำท่านหนึ่ง ซึ่งถูกฟ้องเกี่ยวกับสัญญาเงินกู้ โดยในสัญญากล่าวว่า ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ร้อยละ ๑๐ ต่อเดือน โดยผู้เขียนได้สอบถามจนได้ความว่า ได้ไปกู้เงินนอกระบบจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท จากเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งผันตัวเป็นนายทุนเงินกู้ โดยทำสัญญาต่อกันไว้ โดยกำหนดดอกเบี้ย ร้อยละ ๒๐ ต่อเดือน และกำหนดส่งดอกเบี้ย ทุกวันที่ ๒๗ ของเดือน โดยมอบบัตรเอทีเอ็มของธนาคารXXX พร้อมรหัสเอทีเอ็ม ไว้เป็นประกัน และให้เจ้าหนี้กดเงินเพื่อหักดอกเบี้ย เมื่อชำระดอกเบี้ยได้ ๖ เดือน ผู้กู้ได้เปิดประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และพบข้อกฎหมายว่า ดอกเบี้ย ให้คิดได้สูงสุดในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี เท่านั้น ท่านผู้กู้คงคิดได้ว่า ดอกเบี้ยที่ตนชำระนั้นมันสูงเกินไป และหากคิดแล้ว ๖ เดือน ตกไป ๒๔,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากกว่า ๒๐,๐๐๐+ร้อยละ ๑๕ ต่อปี (๒๓,๐๐๐) จึงไม่ประสงค์ที่จะชำระต่อไปแล้ว และได้เปลี่ยนบัญชีดังกล่าว พร้อมกับแจ้งอายัดบัตรเอทีเอ็ม และไม่ชำระตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และได้ถูกฟ้องร้องเป็นคดีดังกล่าว

เกร็ดความรู้ชาวพุทธ เรื่อง คำถวายทาน ไม่ใช่ คำอุทิศส่วนบุญ

เกร็ดความรู้ชาวพุทธ เรื่อง คำถวายทาน ไม่ใช่ คำอุทิศส่วนบุญ
   ในพิธีทำบุญบางงานเคยได้ยินพิธีกร หรือมรรคนายกบางวัดกล่าวนำถวายทาน เช่น ถวายสังฆทาน ทีว่า อิมานิ มะยัง ภันเต ภัตตานิ เรื่อยไปจนถึง อัมหากัง ทีฆะรัตตังหิตายะ สุขายะ พอถึงคำแปล... เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย และแก่ญาติทั้งหลาย มีบิดามารดา เป็นต้น แทนที่จะกล่าวนำจบแค่ตรงนี้ ท่านก็กล่าวนำต่อไปอีก ... ปู่ย่าตายาย เจ้ากรรมนายเวร เจ้าที่เจ้าทาง เทวดา มารพรหมยมยักษ์ เจ้ากรุงพาลี และใครต่อใครอีกยาวเหยียดเป็นบัญชีหางว่าว กลายเป็นคำกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญไป
   ควรทำความเข้าใจให้ถูกต้องว่า คำถวายทาน กับ คำกรวดน้ำ เป็นคนละอย่างกัน ควรกล่าวคนละตอน ตอนถวายทาน ก็ควรกล่าวเฉพาะคำถวายทาน ส่วนคำอุทิศส่วนบุญ ควรเอาไปกล่าวตอนกรวดน้ำ ไม่ใช่เอามากล่าวปนกันไปหมด ในคำถวายทานมีข้อความว่า เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข แก่เข้าพเจ้าทั้งหลาย และแก่ญาติทั้งหลาย มีบิดามารดา เป็นต้น ข้อความนี้ ยังไม่ใช่คำอุทิศส่วนบุญหรือกรวดน้ำ เป็นแต่แสดงเจตนา หรือแสดงความปรารถนาในการถวายทานนั้นให้พระสงฆ์รับทราบไว้เท่านั้น ว่าถวายทานทำไม

กฎหมายใกล้ตัว เรื่อง ของหลุดจำนำ

กฎหมายใกล้ตัว เรื่อง ของหลุดจำนำ
   "ของถูกและดี ไม่มีในโลก" เชื่อว่าหลายคนคงพอได้ยินคำนี้บ้าง ซึ่งบางคนพอได้ยินคำเหล่านี้ ก็โต้แย้งอยู่ในใจว่า "มี" หรือ "ต้องมีแน่ๆ" แต่ต้องแสวงหาเท่านั้นเอง ตัวผู้เขียนเองก็เชื่อมาตลอดว่า ของถูกและดี ไม่มีในโลก เพราะเชื่อว่า ของที่จะขายถูกได้ ต้องมีอะไรที่ไม่ดีซ่อนอยู่แน่ๆ สังเกตุได้จากตัวอย่างต่อไปนี้
   ในโลกสังคมออนไลน์ มีการโพสต์ขายรถยนต์โดยอ้างว่า เป็นรถหลุดจำนำในราคาถูก ซึ่งเท่าที่สังเกตุ สภาพรถหลายคันไม่ต่างอะไรกับรถใหม่ป้ายแดง แต่ราคานั้นกลับถูกราวกับซื้อรถปิกอัพมือแปดก็ไม่ปาน ซึ่งสภาพรถกับราคา ประกอบกับการโฆษณาว่า ซื้อขายได้ ไม่ผิดกฎหมาย ต่อทะเบียน ทำประกันได้ ผู้ที่อยากมีรถของดี ราคาถูก ก็อดที่จะเข้าครอบครองไม่ได้
   การซื้อจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ซื้อมาแล้วมีสิทธิตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งต้องพิจารณาตามพฤติการณ์เป็นรายๆ ไป ซึ่งก่อนที่ผู้อ่านจะตัดสินใจซื้อ ขอให้อ่านหลักกฎหมายและหลักการที่ศาลใช้ตีความกฎหมายที่เกียวข้องเพื่อประกอบการตัดสินใจ ดังนี้

ท่านทราบหรือไม่ คลอรีนในสระว่ายน้ำอาจทำฟันกร่อนได้ (เกร็ดความรู้สุขภาพ)

ท่านทราบหรือไม่ว่า คลอรีนในสระว่ายน้ำอาจทำฟันกร่อนได้ (เกร็ดความรู้สุขภาพ)
   ถ้าจะพูดให้เป็นหลักวิชาการซักหน่อย คลอรีน (Chlorine)  เป็นธาตุเคมีที่มีเลขอะตอม ๑๗ และสัญลักษณ์ Cl เป็นแฮโลเจน พบในตารางธาตุในกลุ่ม ๑๗ เป็นส่วนของเกลือทะเลและสารประกอบอื่นๆ ปรากฏมากในธรรมชาติ และจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่รวมถึงมนุษย์ด้วย ในรูปของก๊าซคลอรีนมีสีเขียวอมเหลือ มีน้ำหนักมากกว่าอากาศ ๒.๕ เท่า มีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง และมีพิษอย่างร้ายแรง เป็นตัวออกซิไดซ์ ฟอกขาวและฆ่าเชื้อได้เป็นอย่างดี คลอรีนใช้ฆ่าเชื่อแบคทีเรียและจุลินทรีย์ในน้ำดื่ม และน้ำในสระว่ายน้ำ คลอรีนยังใช้ในอุตสาหกรรมผลิตกระดาษ ทำยาฆ่าเชื่อจุลินทรีย์ ทำสีผสมอาหาร ยาฆ่าแมลง สี ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม พลาสติก เวชภัณฑ์ อุตสาหกรรมเท็กไลน์ เป็นต้น
 มีการวิจัยจากคณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบคลอรีนในสระทำให้ฟันกร่อน ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
   นักวิจัยจากคณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับเทศบาลนครหาดใหญ่ร่วมจัดอบรมผู้ประกอบการ ให้ความรู้ด้านการปรับปรุงสระว่ายน้ำ เพื่อลดโอกาสฟันกร่อน จากการว่ายน้ำ หลังสำรวจพบ ๘๐% ของสระว่ายน้ำในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีค่า pH ต่ำกว่ามาตรฐาน แสดงว่าน้ำในสระมีความเข้มข้นของกรดสูง เป็นสาเหตุให้ผู้ว่ายน้ำเกิดภาวะฟันกร่อน
 

กฎหมายใกล้ตัว เรื่อง จำนำโฉนด

กฎหมายใกล้ตัว เรื่อง จำนำโฉนด
   เมื่อไม่นานมานี้ มีคนใกล้ตัวท่านหนึ่งมาปรึกษาข้อกฎหมาย โดยแจ้งข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า ได้ไปกู้เงินนายทุน แล้วเอาหลักทรัพย์ไปค้ำประกันไว้ ต่อมาไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตรงตามสัญญษ และทางเจ้าหนี้จะบังคับยึดทรัพย์ และถามวิธีการว่า ต้องดำเนินการอย่างไร
   ผู้เขียนได้สอบถามไปว่า กู้เงินจำนวนเท่าใด และมีหลักทรัพย์ใดเป็นสิ่งค้ำประกัน จึงได้รับคำตอบว่า กู้เงินนายทุนมา ๑๐๐,๐๐๐ บาท โดยนำโฉนดที่ดินเนื้อที่ ๑๐ ไร่ มอบไว้ให้แก่นายทุน และสัญญาว่าจะชำระให้แล้วเสร็จภายในกำหนด ๑ ปี
   ผู้เขียนเลยถามต่อไปว่า มีการจดทะเบียนจำนองต่อเจ้าพนักงานที่สำนักงานที่ดินหรือไม่ และมีการลงนามในเอกสารหรือหนังสือมอบอำนาจหรือไม่ ได้รับคำตอบว่า นอกจากการลงนามในสัญญาแล้ว ไม่เคยเขียนหรือลงนามในสัญญา หรือหนังสือมอบอำนาจใดๆ อีกเลย และสิ่งที่ส่งให้กับเจ้าหนี้ไป คือ โฉนดฉบับดังกล่าวไว้เท่านั้น และไม่มีการนำไปจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดิน
   เพียงเท่านี้ผู้เขียนสามารถสรุปข้อเท็จจริงได้ จึงได้อธิบายข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ฟังว่า

เกร็ดความรู้ชาวพุทธ เรื่อง ข้าวพระพุทธ

เกร็ดความรู้ชาวพุทธ เรื่อง ข้าวพระพุทธ
   ในสมัยพุทธกาล เมื่อชาวบ้านมีศรัทธานิมนตร์พระสงฆ์ไปฉันภัตตาหาร ตามปกิตก็จะมีพระพุทธเจ้าเสด็จไปด้วย เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานใหม่ๆ ชาวพุทธยังชินอยู่กับการจัดพุทธอาสน์และภัตตาหารถวายพระพุทธเจ้า เมื่อนิมนต์พระสงฆ์ไปฉันภัตตาหาร ก็จัดที่ประทับของพระพุทธเจ้า และจัดภัตตาหารตั้งไว้ เสมือนหนึ่งว่า พระพุทธองค์เสด็จมาประทับอยู่ด้วย และกลายเป็นธรรมเนียมจัดข้าวพระพุทธ และประกอบบุญกริยาที่เรียกกันว่า บูชาข้าวพระ หรือถวายข้าวพระ มาจนถึงทุกวันนี้ และมีขั้นตอนการปฏิบัติดังนี้
   ๑. ตั้งโต๊ะปูผ้าขาวสำหรับวางข้าวพระตรงหน้าพระพุทธปฏิมา (หน้าโต๊ะหมู่บูชา) ถ้าไม่มีโต๊ะก็ให้ปูผ้าขาวกับพื้่นตามความเหมาะสม
   ๒. ตั้งข้าวพระบนโต๊ะ หรือบนผ้าขาว
   ๓. ก่อนถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์ เจ้าภาพหรือเจ้าพิธีจุดธูปเทียน ถ้าที่โต๊ะหมู่บูชามีเทียนจุดอยู่แล้ว จะจุดเฉพาะธูป ๓ ดอกก็ได้ หรือถ้ามีธูปเทียนจุดอยู่ครบบริบูรณ์แล้วก็ไม่ต้องจุดใหม่

Position of Adverb (Adverb // ตำแหน่งถูกต้อง ความหมายก็ชัดเจน)

Position of Adverb (Adverb // ตำแหน่งถูกต้อง ความหมายก็ชัดเจน)
จากการที่ประเทศไทยได้เข้าสู่ประชาคมอาเซียน (Asean Economics Community: AEC) ทำให้คนไทยต้องตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งใช้เป็นภาษากลางในการทำงานของอาเซียน (กฎบัตรอาเซียน ข้อ ๓๔) โดยภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาที่ใช้ในระหว่างการประชุม การโต้ตอบทางจดหมาย การจัดทำรายงานการประชุม ตลอดจนการจัดทำแถลงการณ์ของอาเซียน ดังนั้นการเรียนรู้หลักไวยากรณ์ไม่ใช่สิ่งที่ควรละเลยอีกต่อไป เนื่องจากหลักไวยากรณ์เป็นรากฐานของภาษาอังกฤษที่ดี ถ้าเราเข้าใจอย่างถ่องแท้ ก็จะช่วยให้เราเขียน และพูดภาษาอังกฤษได้ดีตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเขียนจดหมาย หรือการพูดที่เป็นทางการ ซึ่งเราควรใช้ไวยากรณ์ให้ถูกต้อง เพื่อการสื่อสารที่ถูกต้องและตรงประเด็น
   การเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ "Adverb" หรือ "คำกริยาวิเศษณ์" นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราควรศึกษา เพื่อการใช้ที่ถูกต้องตามความหมายที่เราต้องการสื่อสาร คำกริยาวิเศษณ์มีด้วยกันหลายชนิด ใช้สำหรับขยายคำกริยา คำคุณศัพท์ หรือคำกริยาวิเศษ เพื่อให้มีความหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น 
   บทความต่อไปนี้จะเน้นเฉพาะคำกริยาวิเศษณ์ที่ขยายคำกริยา เพื่อบอกลักษณะอาการ (Adverb of manner) บอกสถานที่ (Adverb of place) และบอกเวลา (Adverb of time) เท่านั้น ซึ่งตามปกติคำกริยาวิเศษณ์เหล่านี้จะถูกวางไว้หลังคำกริยาที่ต้องการขยายเสมอ แต่ถ้าคำกริยามีกรรมมารองรับ ก็ต้องวางคำกริยาวิเศษณ์เหล่านี้ไว้หลังกรรมนั้น ดังตัวอย่างต่อไปนี้ สำหรับคำกริยาวิเศษณ์ที่ลงท้ายด้วย -ly ซึ่งไม่ได้เป็นคำสำคัญของประโยคก็สามารถนำมาวางไว้หน้าคำกริยาได้เลย ดังตัวอย่างต่อไปนี้

เกร็ดความรู้ชาวพุทธ เรื่อง การใช้ภูษาโยงและรองโยง


เกร็ดความรู้ชาวพุทธ เรื่อง การใช้ภูษาโยงและรองโยง
   ภูษาโยง คือ แถบผ้าที่ใช้สำหรับสดับปกรณ์หรือบังสุกุลศพแทนการใช้สายสิญจน์ ลักษณะของภูษาโยงทำด้วยผ้าตาดสีทองหรือสีเงิน มีความกว้างหลายขนาด เช่น ๓ ๔ ถึง ๕ นิ้ว ส่วนความยาวแล้วแต่ความต้องการใช้

ลักษณะการใช้งาน 

  • ถ้าเป็นศพเจ้านายตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าหรือเทียบเท่าขึ้นไป เมื่อจะใช้ภูษาโยงต้องมีแถบผ้าขาว ซึ่งมีขนาดกว้างกว่าภูษาโยงเล็กน้อย เรียกว่า "รองโยง" ปูลาดเสียชั้นหนึ่งก่อน แล้วจึงลาดภูษาโยงไปตามรองโยงนั้น
  • ถ้าเป็นศพที่มีศักดิ์ต่ำกว่าชั้นหม่อมเจ้าลงมา ไม่ต้องใช้รองโยง ให้ลาดภูษาโยงเช่นเดียวกับการใช้สายสิญจน์

การเชื่อมต่อ
พิธีราษฎร์ คือ พิธีศพที่เอกชนจัดขึ้นตามวัดทั่วไป หรือที่บ้านของผู้ถึงแก่กรรมเอง นิยมเชื่อมต่อภูษาโยงไว้ล่วงหน้า คือ นำสายสิญจน์ซึ่งโยงไว้ที่หีบศพมาเชื่อมต่อกับภูษาโยงที่จะใช้ทอดผ้าบังสุกุลให้เรียบร้อย ก่อนเริ่มพิธี

ข้อหาลักทรัพย์

ข้อหาลักทรัพย์
ครั้งหนึ่งเมื่อผู้เขียนได้มีโอกาสกลับบ้านช่วงเทศกาลปีใหม่ มีผู้เฒ่าท่านหนึ่งมาเรียบๆ เคียงๆ ถามสารทุกข์สุขดิบ แต่ก็รู้ด้วยสัญชาติญาณว่า คงต้องมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจเกี่ยวกับกฎหมายเป็นแน่ เลยสอบถามไปว่า มีเรื่องอะไรหรือเปล่า จึงได้ความว่า เมื่อคืนส่งท้ายปีเก่า ยายพาหลานไปเที่ยวงานวัด แล้วเก็บสร้อยคอทองคำได้ ด้วยความที่ยายแกเดือดร้อนเรื่องเงิน จึงเก็บเอาไว้เป็นของตน แล้วเอาทองไปขาย ซึ่งในงานคืนดังกล่าวนั้น ก็มีการประกาศกระจายเสียงว่า ทองหาย ใครเก็บได้ขอให้นำมาคืนเจ้าของที่กองอำนวยการ โดยต่อมา ด้วยความที่ยายแกเป็นคนที่มีเงินแล้วกินเหล้า เล่นการพนัน เมื่อมีเงินก็ไปซื้อเหล้ามาดื่ม แล้วก็ป่าวประกาศว่า ตนได้เงินมาอย่างไร เจ้าของจึงทราบว่า ยายเป็นคนเก็บได้ ขอให้คืนทองเส้นดังกล่าว หากไม่คืน จะนำเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจ

เทคนิคง่ายๆ เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ด้วยการเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว

เทคนิคง่ายๆ เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ด้วยการเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว
"อยากพัฒนาภาษาอังกฤษ แต่ไม่มีเวลาเข้าเรียน ทำอย่างไรดี" หลายท่านอาจเคยได้ยินใครหลายๆ คนพูดเช่นนี้ ผมเองก็เคยได้ยินมาหลายครั้ง คำตอบที่ให้ได้คือ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา หากเราเปิดตาเปิดใจ สิ่งรอบตัวก็สามารถเป็นข้อมูลให้พัฒนาตนเองได้ ในทีนี้จะขอลองนำเสนอตัวอย่างง่ายๆ ว่า ใน ๑ วัน หากเราเปิดใจ เรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวเรา จะสามารถเรียนรู้อะไรบ้าง เพื่อเป็นการเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษในตัวเอง...
   ทุกเช้าท่านจะถูกปลุกด้วยนาฬิกาซึ่งมักจะมีคำว่า snooze ปรากฏขึ้นมา แล้วท่านก็จะกดขอต่อเวลาออกไป (บางท่าน ๓-๔ ครั้ง กว่าจะลุกจากเตียง) เคยลองถามตัวเองไหม ว่าคำว่า snooze แปลว่าอะไร หากไม่แน่ใจ ลองใช้กูเกิลในการช่วยหาความหมาย ซึ่งจะพบว่า snooze แปลว่า งียบหลับ โดยหากอ่านเพิ่มเติมจะพบว่ามีคำที่มีความหมายคล้ายกันอีกเช่น doze, nap และ siesta

ว่าด้วยเรื่องแบ่งมรดก

ว่าด้วยเรื่องแบ่งมรดก
   การแบ่งมรดก เป็นเรื่องที่กฎหมายได้วางหลักเกณฑ์ไว้อย่างชัดแจ้งแล้ว แต่เชื่อหรือไม่ ถ้าก่อนเจ้ามรดกตาย หากแบ่งสันปันส่วนทรัพย์สินให้แก่ลูกหลานไม่ดี หรือไม่ได้แบ่ง เมื่อเสียชีวิตไป ส่วนใหญ่ลูกหลานเป็นอันต้องทะเลาะกัน เพราะเรื่องแบ่งมรดกไม่ลงตัว ผมมีเรื่องเล่าไว้เป็นอุทาหรณ์หรือตัวอย่างสำหรับเรื่องนี้ไว้ให้ทุกท่านให้เห็นความสำคัญของการแบ่งมรดก
   เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม มีคนมาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการแบ่งมรดกให้กับทายาท โดยท่านผู้นั้นมีความกังวลว่าจะเสียชีวิตก่อนที่จะมีการแบ่งทรัพย์สินเสร็จ และอยากให้ช่วยร่างพินัยกรรมให้ และต้องการทราบว่า หากท่านเสียชีวิตไปโดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ กฎหมายจะแบ่งอย่างไร โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. มีภรรยา ๓ คน ลูก ๓ คน เคยแต่งงาน ๒ ครั้ง แต่ครั้งแรกไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีลูกด้วยกัน ๑ คน แล้วเลิกรากัน ต่อมาแต่งงานกับภรรยาคนที่ ๒ จดทะเบียนสมรส มีลูกด้วยกัน ๑ คน และแอบไปมีกิ๊ก แล้วมีลูกด้วยกัน ๑ คน โดยได้ไปแจ้งเกิดว่าตนเป็นพ่อให้ใช้นามสกุล แม่เสียชีวิต พ่อยังมีชีวิต มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๔ คน
  2. มีทรัพย์สินที่ร่วมกันทำมาหาได้ และเป็นสินสมรสกับภรรยากับภรรยาคนปัจจุบัน มูลค่าทรัพย์สินประมาณ ๒๐ ล้านบาท


ผู้เขียนจึงอธิบายให้ฟังว่า หากวันนี้ท่านตาย ทรัพย์สินมูลค่า ๒๐ ล้านบาท นั้นจะแบ่งได้ดังนี้

โดนข้อหาพกพาอาวุธ (มีดพับ)

โดนข้อหาพกพาอาวุธ (มีดพับ)
  ช่วงกลางดึกคืนวันศุกร์ทีผ่านมา ผู้เขียนต้องสะดุ้งตื่น เมื่อมีโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย ด้วยความง่วงประกอบกับกำลังฝันหวานๆ จึงอดที่จะโกรธคนที่โทรเข้ามาไม่ได้ จึงพูดไปด้วยเสียงอันหงุดหงิดว่า "ดึกป่านนี้ โดนข้อหาเมาแล้วขับใช่มั้ย" แต่เมื่อย้อนคิดให้ดี ต้นสายที่โทรมา เราก็รู้ว่า ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน แล้วจะโดนข้อหาเมาแล้วขับได้อย่างไร จึงสอบถามไปว่า โดนข้อหาอะไรกันแน่ แล้วเรื่องราวเป็นอย่างไร
   ต้นสายแจ้งว่า โดนข้อหาพกพาอาวุธ ผู้เขียนประเมินว่า ต้องเป็นอาวุธปืนแน่ๆ แต่เพื่อความแน่ใจ ต้องค้นหาความจริงก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ จึงถามไปว่า อาวุธที่ว่าคืออาวุธอะไร พกไว้ที่ไหน พกอย่างไร มีทะเบียนหรือไม่ จึงได้ความว่า อาวุธที่ว่าเป็นมีดพับ ยาวประมาณ ๔ นิ้ว เอาไว้ในที่เก็บของในรถ ไม่มีทะเบียน ตอนนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ด่าน และจะขอยืมเงินผู้เขียนจำนวน ๕,๐๐๐ บาท เพื่อเคลียร์คดี ด้วยความที่ผู้เขียนไม่อยากให้ต่อสู้คดีด้วยวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับไม่อยากให้ยืมเงิน ผู้เขียนพยายามบอกให้ใจเย็นๆ และสอบถามต่อไปว่า แน่ใจนะว่าไม่มีคดีอื่นๆ หรือความผิดอื่นซ่อนอยู่ด้วย และไม่ได้หลอกเอาเงินผู้เขียนไปทำอย่างอื่น คำตอบที่ได้กลับมาคือ "ชัวร์อย่างที่สุด"
   เมื่อผู้เขียนแน่ใจว่า ถูกจับกุมในข้อหาพกพาอาวุธมีด จึงรีบอธิบายข้อกฎหมายในความผิดฐานดังกล่าว ว่าเป็นความผิดขนาดไหน และเจ้าพนักงานสามารถดำเนินการต่อผู้กระทำความผิดได้ขนาดไหนให้ต้นสายฟัง ดังนี้