เกร็ดความรู้ชาวพุทธ เรื่อง ถวายสังฆทานให้ถูกวิธี
เรื่องการถวายสังฆทาน มีประเด็นที่ควรทำความเข้าใจให้ถูกต้องมากมาย เกร็ดความรู้ชาวพุทธในตอนนี้ จึงขอนำเสนอเรื่อง การถวายสังฆทานให้ถูกวิธี ในประเด็นที่ว่า "สังฆทานควรถวายเวลาไหน" หมายถึง เวลาเข้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ เพราะเท่าๆ ที่ทำกันนั้น อยากถวายเวลาไหน หรือว่างเวลาไหน ก็ถวายกันในเวลานั้นคำตอบก็คือ ถ้าของที่จะถวายนั้นเป็นของกิน หรือมีของกินรวมอยู่ด้วย เช่น มีข้าว มีแกง มีขนม หรือของกินจำพวกเครื่องกระป๋องของแห้ง อย่างนี้ต้องถวายก่อนเที่ยงเท่านั้น หลังเที่ยงไปแล้วห้ามถวาย เพราะตามวินัยสงฆ์นั้น พระสงฆ์จะรับประเคนของกินหลังเที่ยงวันไปแล้วไม่ได้
แต่ถ้าเป็นของใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก ผ้าสบงจีวร ยาสามัญประจำวัด ร่ม รองเท้า ฯลฯ เหล่านี้ สามารถถวายได้ตลอดเวลา ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นก่อนเที่ยง หรือหลังเที่ยง สะดวกตอนไหนก็ถวายตอนนั้น
ปัญหาที่พบก็คือ
ผู้ถวายสังฆทานหิ้วเอาถังแดงที่พ่อค้าแม่ค้าจัดไว้ หรือบางทีก็ทางวัดเอง ตั้งเอาไว้ให้คนเลือกและเปลี่ยนสิ่งของได้ตามใจ โดยไม่ได้แนะนำว่า ควรจะต้องใช้อะไร หรือใส่อะไรลงไปบ้าง ทำให้ถังนั้น มีทั้งของกินบ้าง ของใช้บ้าง ปนกันไปหมด ของถวายที่มีทั้งของกินของใช้ปนกันอยู่เช่นนี้ จะทำยังไง จะถวายหลังเที่ยงวันไปแล้วได้หรือไม่
คำตอบที่ชัดเจนที่สุดก็คือ ของกินของใช้ปนกัน เอาไปถวายสังฆทานหลังเที่ยงวันไปแล้ว...ไม่ได้เด็ดขาด
แต่...ถ้าอยากถวายใจจะขาด ท่านว่า ให้แยกของกินออกไปไว้ต่างหาก ไม่ต้องเอามาถวาย เวลาประเคนก็ประเคนเฉพาะของใช้ หรือเลือกซื้อของเป็นชิ้นๆ เป็นอย่างๆ วิธีนี้ นอกจากจะได้ของที่ถูกใจ ยังถูกต้องตามพระวินัยอีกด้วย โปรดจำไว้ให้ขึ้นใจเป็นดีที่สุดว่า "ถวายสังฆทานหลังเที่ยงวันไปแล้ว ห้ามถวายของกิน"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น