กฎหมายใกล้ตัว เรื่อง สิทธิของผู้ต้องหา

เมื่อผู้ต้องหาถูกนำส่งพนักงานสอบสวน ภายหลังฝ่ายจับกุมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาจะต้องถูกควบคุมหรือขัง เพื่อทำการสอบสวนโดยพนักงานสอบสวน และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหามีโอกาสต่อสู้ตามวิถีทางของกฎหมาย และธำรงค์ไว้ซึ่งสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การหรือไม่ให้การก็ได้
   ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาจึงได้บัญญัติรับรองสิทธิของผู้ถูกควบคุมหรือขังไว้ ดังนี้
มาตรา ๗/๑  ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาซึ่งถูกควบคุม หรือขัง มีสิทธิแจ้งหรือขอให้เจ้าพนักงาน แจ้งให้ญาติ หรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาไว้วางใจทราบถึงการถูกจับกุม และสถานที่ที่ถูกควบคุมในโอกาสแรก และให้ผู้ถูกจับ หรือผู้ต้องหามีสิทธิดังต่อไปนี้ด้วย
(๑) พบและปรึกษาผู้ซึ่งจะเป็นทนายความเป็นการเฉพาะตัว
(๒) ให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนได้ในชั้นสอบสวน
(๓) ได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อกับญาติได้ตามสมควร
(๔) ได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็วเมื่อเกิดการเจ็บป่วย
    ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจซึ่งรับมอบตัวผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหา มีหน้าที่แจ้งให้ผู้ถูกจับ หรือผู้ต้องหานั้นทราบในโอกาสแรกถึงสิทธิตามวรรคหนึ่ง
มาตรา ๑๓๔/๔ ในการถามคำให้การผู้ต้องหา ให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบก่อนว่า

(๑) ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะให้การหรือไม่ก็ได้ ถ้าผู้ต้องหาให้การ ถ้อยคำที่ผู้ต้องหาให้การนั้น อาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้
(๒) ผู้ต้องหามีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนได้
เมื่อผู้ต้องหาเต็มใจให้การอย่างใดก็ให้จดคำให้การไว้ ถ้าผู้ต้องหาไม่เต็มใจให้การเลย ก็ให้บันทึกไว้
ถ้อยคำใดๆ ที่ผู้ต้องหาให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวน ก่อนมีการแจ้งสิทธิตามวรรคหนึ่ง หรือก่อนที่จะดำเนินการตาม มาตรา ๑๓๔/๑ มาตรา ๑๓๔/๒ และมาตรา ๑๓๔/๓ จะรับฟังเป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของผู้นั้นไม่ได้

   จากบทบัญญัติของกฎหมายมีเจตนารมย์เพื่อธำรงค์ไว้ซึ่งหลักการว่า ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะให้การหรือไม่ให้การก็ได้ และคำให้การต้องมาจากความสมัครใจ ปราศจากการข่มขู่ การบีบบังคับหรือการดำเนินการโดยไม่เป็นธรรมหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย กฎหมายจึงให้สิทธิให้ผู้ต้องหาซึ่งถูกควบคุมหรือขัง แจ้งให้ญาติหรือบุคคลที่ไว้วางใจทราบว่าถูกจับกุม และสถานที่ถูกควบคุมในโอกาสแรก เป็นการขจัดปัญหาการดำเนินการสืบสวนสอบสวนอันไม่เป็นธรรม และนอกจากนั้น ยังเป็นการแจ้งให้ญาติเตรียมหลักทรัพย์ หรือบุคคลเพื่อยื่นคำขอปล่อยตัวชั่วคราวอีกทางด้วย
   นอกจากสิทธิดังกล่าว ผู้ถูกควบคุมตัวหรือขัง ยังมีสิทธิพบและปรึกษาทนายความเป็นการส่วนตัว คำว่า เป็นการส่วนตัวนั้น หมายความว่า เป็นการส่วนตัวจริงๆ หรือถือเสมือนว่าคนอื่นไม่ได้ยิน ตัวอย่างเช่น กรณีผู้ต้องหาพบทนายความเป็นการส่วนตัว และแจ้งกับทนายความว่า ตนเป็นผู้กระทำความผิดแม้พนักงานสอบสวนหรือบุคคลอื่นไปได้ยินเข้า จะถือว่า ถ้อยคำดังกล่าวเป็นคำรับสารภาพของผู้ต้องหานั้นมิได้ และพนักงานสอบสวนไม่อาจเอาถ้อยคำดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ใดๆ ในทางคดีได้ และแม้เมื่อปรึกษาทนายความแล้ว ทนายความแจ้งว่าส่วนนี้ควรให้การ ส่วนนี้ไม่ควรให้การ ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะกระทำได้ โดยเจ้าพนักงานไม่มีสิทธิที่จะบีบบังคับให้ผู้ต้องหาให้การ ตามที่ตนแอบได้ยินได้ และเมื่อได้ปรึกษาทนายความเป็นที่พอใจแล้ว ผู้ต้องหายังมีสิทธิที่จะมีทนายความหรือผู้ที่ตนไว้ใจร่วมฟังการสอบสวน เพื่อเป็นการป้องกันมิให้ผู้สอบสวน สอบสวนนอกวิถีทางตามที่กฎหมายกำหนดและทนายความหรือผู้ที่ร่วมฟัง อาจแนะนำว่าควรให้การในรูปแบบใด และอาจถามประเด็นสำคัญๆ เพื่อให้พนักงานสอบสวนบันทึกไว้ในสำนวน การสอบสวนเพื่อประโยชน์ในการต่อสู้คดีในภายภาคหน้าอีกด้วย และไม่ว่าผู้ต้องหาจะใช้สิทธิตามมาตรา ๗/๑ หรือไม่ เมื่อพนักงานสอบสวนจะถามคำให้การผู้ต้องหา ให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบอีกครั้งก่อนว่า ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะให้การหรือไม่ก็ได้ ถ้าผู้ต้องหาให้การ ถ้อยคำที่ผู้ต้องหาให้การนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ และผู้ต้องหามีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนได้ เมื่อผู้ต้องหาเต็มใจให้การอย่างใดก็ให้จดคำให้การไว้ ถ้าผู้ต้องหาไม่เต็มใจให้การเลย ก็ให้บันทึกไว้ และในวรรคท้ายเป็นบทบังคับพนักงานสอบสวนว่า หากมีถ้อยคำใดๆ ที่ผู้ต้องหาให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวนก่อนมีการแจ้งสิทธิที่กล่าวข้างต้น ถือว่าการสอบสวนในส่วนนั้นเสียไป จะเอาคำให้การ คำรับสารภาพ เช่น การทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มาเป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของผู้นั้นไม่ได้
   กฎหมาย วางรูปแบบวิธีการสำหรับการสอบสวนไว้ค่อนข้างละเอียด เป็นพิธีการ และหลายขั้นตอน และด้วยความละเอียด พิธีการ และหลายขั้นตอน พนักงานสอบสวนบางคนอาจมีการหลงลืม เคอะเขิน หรือเร่งรีบ ไม่แจ้งสิทธิ ตามที่กฎหมายกำหนด เป็นการเปิดช่องให้จำเลยยกการไม่แจ้งสิทธิดังกล่าวเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาล และมีหลายคดีที่ยกข้อต่อสู้แล้วเป็นผล พยานหลักฐานที่สำคัญต้องถูกตัดออก ไม่นำมารับฟังเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลย การแจ้งสิทธิจึงเป็นเรื่องสำคัญทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ และฝ่ายผู้ต้องหา แจ้งครบ ผู้ต้องหาก็จะได้ให้การด้วยความระมัดระวัง แต่ถ้าไม่แจ้งหรือแจ้งไม่ครบ พนักงานสอบสวนก็ต้องระวังตัวเอาเอง ... เรื่องเล่ากฎหมายใกล้ตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น