กฎหมายใกล้ตัว เรื่อง ผลบางประการจากการประกาศใช้กฎอัยการศึก
เมื่อช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา มีประกาศจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยกตัวอย่างเช่น ฉบับที่ ๒/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ให้ใช้ กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๑๖๓๐ นั้น จะขอกล่าว ถึงผลบางประการจากการประกาศใช้กฎอัยการศึกให้ได้รับทราบกัน ดังนี้๑. ทันทีที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก เมื่อนั้นเป็นเวลาไม่ปกติ ซึ่งคดีที่เกิดขึ้นในเวลาไม่ปกติ และอยู่ในอำนาจศาลทหาร กฎหมายบัญญัติให้อัยการทหารเหล่านั้น มีอำนาจเป็นโจทย์ฟ้องคดีได้ ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องคดีเองได้ แตกต่างจากเวลาปกติที่ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารมีอำนาจเป็นโจทย์ฟ้องคดีได้ด้วย ส่วนจำเลยนั้นยังคงมีสิทธิ์แต่งตั้งทนายความได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาปกติหรือเวลาไม่ปกติก็ตาม สำหรับการพิจารณาตัดสินคดีนั้น กฎหมายบัญญัติให้คำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลทหารชั้นต้นในเวลาไม่ปกติ ห้ามมิให้อุทธรณ์ หรือฎีกา แตกต่างจากในเวลาปกติ เมื่อมีการพิจารณา พิพากษาโดยศาลทหารชั้นต้นเสร็จแล้ว คู่ความยังมีโอกาสที่จะอุทธรณ์ไปยังศาลทหารกลาง หรือฎีกาไปยังศาลทหารสูงสุดต่อไป
๒. การขาดราชการของนายทหารชั้นสัญญาบัตร ชั้นประทวน หรือพลทหารที่จะเป็นความผิดฐานหนีราชการนั้น เพียงขาดราชการ ๓ วัน ในเขตที่ใช้กฎอัยการศึก ก็เป็นความผิดฐานหนีราชการแล้ว แตกต่างจากการขาดราชการในพื้้นที่นอกเขตที่ใช้กฎอัยการศึก ที่ต้องขาดราชการ ๑๕ วัน จึงจะเป็นความผิดฐานหนีราชการ นอกจากนั้น การทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาทหารอีกหลายฐานความผิดในเขตที่ใช้กฎอัยการศึก ต้องรับโทษหนักกว่านอกเขตที่ใช้กฎอัยการศึกอีกด้วย
๓. การลงทัณฑ์แก่ทหารกองประจำการที่ขาดหนีราชการ ในเวลาไม่ปกติจะแตกต่างกับในเวลาปกติ ตัวอย่างเช่น หนีราชการในเวลาไม่ปกติแล้วกลับมารายงานตัว ครั้งที่ ๑ ถ้าหนีราชการไม่เกิน ๓๐ วัน ให้ผู้บังคับบัญชาลงทัณฑ์จำขัง เท่าจำนวนวันที่หนีราชการไป แต่กรณีหนีราชการในเวลาปกติแล้วกลับมารายงานตัวเอง ครั้งที่ ๑ ให้ผู้บังคับบัญชาลงทัณฑ์ จำขัง ๑ ใน ๔ ของจำนวนวันที่หนีราชการ เป็นต้น
๔. เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึกใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก พ.ศ.๒๔๕๗ ได้หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจค้น การเกณฑ์ การห้าม การยึด การเข้าอาศัย การทำลายหรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ การขับไล่ การกักตัวบุคคล ตัวอย่างเช่น การเข้าตรวจค้นอาวุธสงครามหรือยาเสพย์ติดในอาคารพักอาศัย หรือโรงแรม การห้ามมิให้มั่วสุมประชุมกัน การห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถาน ภายในระหว่างระยะเวลาที่กำหนด การกักตัวบุคคลที่ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึกไม่เกิน ๗ วัน เป็นต้น
๕. ในเขตที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึก มีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน ในส่วนที่เกี่ยวกับ การยุทธ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึก
สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึกในข้อ ๔ และข้อ ๕ นั้น ไม่ได้หมายความว่า ทหารทุกคนตั้งแต่นายทหารตลอดจนถึงพลทหาร จะเป็นผู้มีอำนาจ แต่หมายความเฉพาะผู้บังคับบัญชาทหารที่มีอำนาจประกาศใช้กฎอัยการศึกได้เท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น